ข่าวงานอีเว้นท์ - และแล้วก็ได้แชมป์สุดยอดนักปรุงกับการแข่งขันอันดุเดือด ‘2024 HANSIK CONTEST IN THAILAND' ในหัวข้อ 'The Secret of K-Sauce' ประจำปีนี้
ข่าวประชาสัมพันธ์
Press Release
ฟังข่าวนี้
จบไปแล้วกับการแข่งขันทำอาหารเกาหลี ‘2024 HANSIK CONTEST IN THAILAND' จัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ,กระทรวงเกษตร อาหารและกิจการชนบทแห่งประเทศเกาหลี และสมาคมพัฒนาอาหารเกาหลี ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
การแข่งขันมีขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ณ ห้องสตูดิโอทำอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีการคัดเลือกผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 12 ทีม ผ่านคลิปวิดีโอการสมัครรอบออนไลน์ จากผู้สมัครทั้งหมดกว่า 80 ทีม ในระยะเวลาสามสัปดาห์ ภายใต้หัวข้อ 'The Secret of K-Sauce'
ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือ คุณศศิธร วาปี (อายุ 48 ปี, ฟรีแลนซ์) จากเมนูหลัก ซุปเต้าเจี้ยวเนื้อวัวรสชาติกลมกล่อม พร้อมด้วยต๊อกบกกีซอสโคชูจัง กิมจิที่รังสรรค์จากมะม่วง และผักเครื่องเคียงต่าง ๆผสมผสานกับน้ำมันงาเกาหลี โดยได้รับรางวัลเป็นบัตรกำนัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับเกาหลีพร้อมที่พัก นอกจากนี้คุณศศิธรได้กล่าวว่า "ดิฉันเป็นคนชอบทานอาหารเกาหลีอยู่แล้ว จึงมีโอกาสได้ทำทานเองอยู่บ่อยครั้ง จนได้อาหารเกาหลีที่มีรสชาติกลมกล่อมเป็นสไตล์ของตนเอง"
รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งตกเป็นของ คุณอรรคพล นุ่มดี (อายุ 25 ปี, เชฟ) จากเมนูกุ้งกุลาดำในแดนกิมจิ โดยตัวซอสมีส่วนผสมของซอสเต้าเจี้ยวและซอสซัมจัง ทานร่วมกับกุ้งกุลาดำและข้าวจี่บิบิมบับ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองตกเป็นของ คุณนัทธมน ธนเดชบุญฤทธิ์ (อายุ 23 ปี, นักศึกษา) จากเมนูซี่โครงหมูซอสโคชูจังกับเส้นหมี่แบบไทย และกิมจิที่รังสรรค์จากรากบัว
การแข่งขันใช้เวลาทั้งหมด 90 นาที ซึ่งผลคะแนนถูกตัดสินโดยภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ผู้แทนจากสถาบันสำคัญของสาธารณะรัฐเกาหลี ร่วมกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร โดยร่วมประเมินกันอย่างละเอียดถึง 'การใช้ซอสเกาหลี' ความสะอาด รสชาติ กระบวนการทำอาหาร รวมไปถึงการจัดจานและการนำเสนอเมนูอาหาร
เมื่อเวลาการแข่งขันจบลง ผู้เข้าแข่งขันต่างจัดเตรียมเมนูอาหารฟิวชั่นหลากหลายเมนูของแต่ละท่าน เพื่อนำเสนอแก่ท่านคณะกรรมการ ตั้งแต่เมนูซี่โครงหมูที่ผสมผสานซอสโคชูจัง สไตล์ไทย ไปจนถึงเมนูอาหารที่ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ เครื่องเทศ เส้นประเภทต่างๆแบบไทยผสมกับซอสดั้งเดิมของเกาหลีอีกมากมาย
และด้วยผู้เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศมาจากหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัยอาหาร เจ้าของร้านอาหารเกาหลี รวมไปถึงนักศึกษาทางด้านอาหารนั้นเอง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของอาหารเกาหลีที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย อีกทั้งในการแข่งขันยังถูกถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของผู้เข้าแข่งขันและอินฟลูเอนเซอร์ด้วย
นอกจากนี้ในช่วงก่อนการแข่งขัน ทางงานได้มีการจัดบูธขึ้น เพื่อส่งเสริมซอสเกาหลี ที่ศูนย์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีผู้มาเข้าใช้บริการกว่า 500 คน โดยในบูธมีกิจกรรมมากมาย ทั้งคลิปวิดีโอนำเสนอซอสดั้งเดิมต่างๆของเกาหลี กิจกรรมที่ให้ผู้คนได้ร่วมชิมซอสเกาหลีกับผักต่างๆโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และกิจกรรมแจกของรางวัล ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก
ในช่วงท้าย คิม จีฮี ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ปาร์ค ยงมิน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า "ดิฉันรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่วัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างซอสเกาหลีได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายและถูกนำมาตีความอย่างหลากหลายในประเทศที่เรียกได้ว่าเป็น 'ครัวของโลก' อย่างประเทศไทย"
แสดงความคิดเห็น