พื้นที่โฆษณา

ข่าวไลฟ์สไตล์ - เผยผลการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพล แชมป์เก่าถูกโค่นแล้ว

ข่าวประชาสัมพันธ์

Press Release

ชอบหน้านี้?
iqmedia... 20 ก.ค. 66 64.7K

ฟังข่าวนี้

พื้นที่โฆษณา

ผลการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) ครั้งล่าสุดได้ออกมาแล้ว โดยญี่ปุ่นถูกโค่นแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หล่นไปอยู่อันดับ 3 ในการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association หรือ IATA) ขณะที่ตำแหน่งพาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลกตกเป็นของสิงคโปร์แต่เพียงประเทศเดียว ซึ่งผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์เดินทางสู่จุดหมาย 192 แห่ง จากทั้งหมด 227 แห่งทั่วโลกได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (visa-free) ขณะที่เยอรมนี อิตาลี และสเปน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งเดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ ได้ 190 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า และผู้ถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่นร่วมกับอีก 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เกาหลีใต้ และสวีเดน อยู่ในอันดับ 3 ซึ่งเดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าได้ 189 แห่ง

สหราชอาณาจักรดูเหมือนจะพลิกฟื้นกลับมาได้แล้วหลังอันดับลดลงมา 6 ปี โดยขยับขึ้นสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งเป็นอันดับที่เคยครองเอาไว้เมื่อปี 2560 ในทางกลับกัน สหรัฐยังคงมีอันดับลดลงในดัชนีนี้ติดต่อกันมานับทศวรรษแล้ว โดยขยับลงสองอันดับมาอยู่ที่ 8 โดยเดินทางไปจุดหมายต่าง ๆ แบบไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 184 แห่ง เมื่อเทียบกับสมัยรุ่งเรืองเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วในปี 2557 ซึ่งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาครองอันดับ 1 ในดัชนีนี้ทั้งคู่ แต่นับตั้งแต่นั้นก็อันดับลดลงเรื่อย ๆ ส่วนอัฟกานิสถานยังคงรั้งท้ายในการจัดอันดับนี้ โดยเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 27 แห่ง

ดร. คริสเตียน เอช เคลิน (Dr. Christian H. Kaelin) ประธานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) เปิดเผยว่า แนวโน้มที่พบได้ทั่วไปตลอด 18 ปีที่จัดอันดับดังกล่าวมา สะท้อนให้เห็นอิสระในการเดินทางมากขึ้น เพราะจำนวนจุดหมายปลายทางโดยเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 58 แห่งในปี 2549 เป็น 109 แห่งในปี 2566 "อย่างไรก็ตาม อิสระในการเดินทางทั่วโลกระหว่างหัวตารางกับท้ายตารางนั้นเหลื่อมล้ำมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา โดยอันดับหนึ่งอย่างสิงคโปร์เข้าถึงจุดหมายต่าง ๆ ได้มากกว่าอัฟกานิสถานถึง 165 แห่ง"

ทั้งนี้ เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ได้ทำการศึกษาครั้งใหม่ โดยเจาะลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดกว้างที่ประเทศหนึ่งมีให้ชาวต่างชาติ ซึ่งก็คือจำนวนประเทศที่อนุญาตเข้าได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า กับเสรีภาพในการเดินทางของพลเมืองประเทศนั้น จนได้ออกมาเป็นดัชนีการเปิดกว้างของเฮนลี่ย์ (Henley Openness Index) ซึ่งจัดอันดับประเทศทั้งหมด 199 ประเทศทั่วโลกตามจำนวนสัญชาติที่อนุญาตให้เข้าประเทศนั้นได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า

ประเทศที่ "เปิดกว้างที่สุด" 20 อันดับแรกล้วนเป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ หรือประเทศในแถบแอฟริกา ยกเว้นกัมพูชา ปัจจุบันมี 12 ประเทศที่เปิดรับพาสปอร์ตทุกสัญชาติ และมี 4 ประเทศที่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าได้แบบไม่ต้องขอวีซ่าเลย แม้ความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนการเปิดกว้างสูงกับคะแนนการเข้าถึงโดยไม่ต้องขอวีซ่าสูงนั้นไม่เป็นเส้นตรงหรือตรงไปตรงมา แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าสิงคโปร์และเกาหลีใต้ซึ่งไต่อันดับใน 10 อันดับแรกมาได้มากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้น มีระดับการเปิดกว้างที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ 5 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดระหว่างเสรีภาพในการเดินทางที่พลเมืองของตนได้รับ กับการเข้าถึงโดยไม่ต้องใช้วีซ่าสำหรับคนสัญชาติอื่น โดยสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ต่างมีอันดับลดลง หรือไม่ก็อยู่ที่เดิม เพราะความเปิดกว้างไม่ค่อยคืบหน้า

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.henleyglobal.com/newsroom/press-releases/2023-passport-index-global-mobility-q3

พื้นที่โฆษณา
ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย iqmedia ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์ หากบทความนี้มีความไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม เนื่องจากทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
พื้นที่โฆษณา