พื้นที่โฆษณา

ข่าวอาหาร, เครื่องดื่ม - "เอียน โกห์" เชฟหนุ่มจากสิงคโปร์ คว้ารางวัลฟู้ด ฟอร์ ธอท อวอร์ด

ข่าวประชาสัมพันธ์

Press Release

ชอบหน้านี้?
iqmedia... 29 มิ.ย. 66 16.0K

ฟังข่าวนี้

พื้นที่โฆษณา

เชฟหนุ่มอายุยังไม่ถึง 30ปีผู้เป็นตัวแทนจากเอเชีย โดดเด่นด้วยความสามารถในการถ่ายทอดความเชื่อและรากเหง้าทางวัฒนธรรมเฉพาะตัวลงในอาหารจานเด็ด

ก่อนที่การแข่งขันเฟ้นหาเชฟดาวรุ่ง ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) ประจำปี 2565-2566รอบสุดท้ายจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองมิลาน ในวันที่4และ 5 ตุลาคม 2566ทางซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมีมีความยินดีที่จะประกาศว่าเอียน โกห์ (Ian Goh)เชฟหนุ่มจากสิงคโปร์ เป็นผู้ชนะรางวัลฟู้ด ฟอร์ ธอท อวอร์ด โดยนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส (Fine Dining Lovers Food for Thought Award)

ดูข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่
https://www.multivu.com/players/uk/9181351-ian-goh-fine-dining-lovers-food-for-thought-award-spellegrino/

รางวัลนี้เป็นหนึ่งในสามรางวัลรองของการแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ซึ่งมอบให้กับเชฟที่ถ่ายทอดความเชื่อของตนเองลงในอาหารจานเด็ดได้ดีที่สุด โดยมาจากการโหวตของผู้อ่านนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส

เมนูซิกเนเจอร์Heritage Lambที่รังสรรค์ขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากหลุยส์ ฮาน (Louis Han)ผู้ให้คำปรึกษาในรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค และเป็นรองหัวหน้าเชฟจากร้านNae:umในสิงคโปร์ที่ได้หนึ่งดาวมิชลิน ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้โหวตและสามารถเอาชนะผู้เข้ารอบสุดท้ายระดับภูมิภาคที่มีความสามารถอีก 14 คนจากทั่วโลก

"อาหารจานนี้ผสมผสานความชื่นชอบเนื้อแกะของผมเข้ากับความหวังที่จะเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรมชาวไหหลำของผม" เชฟหนุ่มกล่าว "เชฟหลุยส์ ฮาน เจ้าของร้านNae:umเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับผม เพราะเขาเองก็เคยเข้าแข่งขันเมื่อปี 2559เราใช้เวลาร่วมกันมากมายไม่เพียงแค่ฝึกฝนทักษะการทำอาหารเท่านั้น แต่เขายังช่วยเพิ่มความมั่นใจและความมั่นคงทางจิตใจให้กับผมอีกด้วย เขามีประสบการณ์และความรู้มากมาย การเข้าร่วมการแข่งขันซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และผมมองว่าเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เชฟรุ่นใหม่ได้เจิดจรัสในวงการ"

วาเลเรีย ไรมอนดิ (Valeria Raimondi)บรรณาธิการใหญ่ของนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มอบรางวัลฟู้ด ฟอร์ ธอท อวอร์ด ที่มาจากการโหวตออนไลน์ของผู้อ่านนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส ให้กับเชฟเอียน โกห์ รางวัลนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อาหารจานนี้ต้องการจะสื่อ ประวัติความเป็นมาที่ซ่อนอยู่ และคุณค่าที่สะท้อนให้เห็น เพื่อเน้นย้ำว่าอาหารร่วมสมัยไม่ได้สำคัญที่เทคนิคขั้นสูงและส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีเท่านั้น แต่ต้องเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับความคิดที่อยู่เบื้องหลังทุกเมนูอีกด้วย เราทุกคนทราบดีว่าการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจนมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเชฟรุ่นใหม่ที่ต้องการก้าวเข้าสู่วงการอาหารนานาชาติ นั่นคือเหตุผลที่เราภูมิใจมากที่ได้ยกย่องเชฟที่ได้รับการโหวตว่ามีความโดดเด่นที่สุด"

ทั้งนี้ ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เล็งเห็นว่าการศึกษามีความสำคัญในการบ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารรุ่นใหม่ จึงได้จัดเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายของรางวัลรองทั้งสามรางวัล เพื่อเจาะลึกในประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในวงการอาหาร

ในการจัดเวิร์กชอป "เอกลักษณ์บนจานอาหาร" (Identity on the Plate) ที่ดำเนินรายการโดยทอม เจนกินส์ (Tom Jenkins)นักข่าวของนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส และตัวแทนจากอคาเดมีนั้น เหล่าเชฟผู้เข้ารอบสุดท้ายของรางวัลฟู้ด ฟอร์ ธอท อวอร์ด โดยนิตยสารไฟน์ ไดน์นิง เลิฟเวอร์ส ร่วมด้วยเชฟที่มีชื่อเสียงจากนานาชาติ ได้แก่เฮนริเก ซา เปสโซอา (Henrique Sa Pessoa), ปีเตอร์ กิลมอร์ (Peter Gilmore), เดอไอลล์ แทม (DeAille Tam), เซลาสซี อทาดิกา (Selassie Atadika)และเดโบรา ฟาดุล (Debora Fadul)รวมถึงนักเขียนด้านอาหารเปาลา มิกลิโอ (Paola Miglio)ได้มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการถ่ายทอดเอกลักษณ์และบุคลิกลักษณะของเชฟผ่านอาหาร และการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ด้วยความใส่ใจ

การทำอาหารช่วยหล่อหลอมและแสดงตัวตนของเชฟได้อย่างไร เชฟจะสร้างสรรค์เมนูใหม่โดยไม่ลืมบทบาทในการหล่อเลี้ยงผู้คนได้อย่างไร และเชฟจะรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวในฐานะเชฟได้อย่างไร เหล่านี้เป็นเพียงคำถามบางส่วนที่เหล่าเชฟพยายามตอบตามประสบการณ์ของแต่ละคน ซึ่งจุดประกายการสนทนาที่สร้างแรงบันดาลใจ ในโอกาสนี้ ทอม เจนกินส์ ได้เน้นย้ำข้อความสำคัญว่า "เชฟแต่ละคนเริ่มทำอาหารในช่วงวัยและในเส้นทางที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงไม่มีเส้นทางอาชีพแบบเดียวที่เหมาะกับทุกคน แต่เมื่อพวกเขารู้จักกับการทำอาหาร และตระหนักว่าสามารถแสดงออกและสื่อสารทุกสิ่งที่หล่อหลอมตัวตนผ่านทางอาหารได้ พวกเขาก็หยุดทำอาหารไม่ได้แล้ว ในการรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเป็นตัวของตัวเองและไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกา โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ก็จริง แต่เชฟอาวุโสต่างแนะนำเชฟรุ่นใหม่ว่าอย่ารับอิทธิพลจากสิ่งที่เห็นในโลกออนไลน์มากเกินไป เอกลักษณ์ของตัวเองในฐานะเชฟ อะไรที่ทำให้แต่ละคนเป็นตัวของตัวเอง นั่นคือจุดแข็งที่สำคัญที่สุด นอกจากนั้นยังควรสร้างสรรค์สิ่งใหม่ไม่ใช่แค่กับอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวีธีการปฏิบัติต่อผู้คนด้วย เพื่อพัฒนาวงการอาหารให้ดีขึ้นสำหรับทุกคน"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com

เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี

ศาสตร์การทำอาหารมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมถึงสร้างอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนมากขึ้น แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยผู้ที่มีความสามารถ ด้วยเหตุนี้ ซานเพลลีกรีโนจึงจัดตั้งซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) เพื่อดึงดูด เชื่อมโยง และบ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารรุ่นใหม่ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมคนรุ่นใหม่ด้วยโอกาสทางการศึกษา การให้คำปรึกษา และประสบการณ์ รวมทั้งสนับสนุนการแข่งขันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก

ซานเพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เปิดประตูต้อนรับสมาชิกจากกว่า 70ประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพรสวรรค์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ หรือเพศ โดยเป็นสถานที่ที่เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการอาหารระดับโลก และร่วมกันสร้างชุมชนการทำอาหารที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่https://www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com/

เกี่ยวกับซานเพลลีกรีโน และ อควา ปานน่า

ซานเพลลีกรีโน (S.Pellegrino), อควา ปานน่า (Acqua Panna) และซานเพลลีกรีโน อิตาเลียน สปาร์คลิง ดริงค์ส (Sanpellegrino Italian Sparkling Drinks) เป็นเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศของบริษัท ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. (Sanpellegrino S.p.A.) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายในกว่า 150ประเทศ ผ่านสาขาและตัวแทนจำหน่ายใน 5ทวีป โดยแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพจากต้นกำเนิด และถ่ายทอดความเป็นอิตาลีออกไปทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความน่าอภิรมย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ ซานเพลลีกรีโน เอส.พี.เอ. ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2442 และเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอิตาลี ครอบคลุมทั้งน้ำแร่ เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยไร้แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ

ซานเพลลีกรีโนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับโลกใบนี้ ตลอดจนทำงานอย่างมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรเหล่านี้จะมีอนาคตที่ยั่งยืน

รูปภาพ -https://mma.prnewswire.com/media/2140276/Sanpellegrino_Group_Ian_Goh.jpg
โลโก้ -https://mma.prnewswire.com/media/2005247/SPYCA_Logo.jpg

พื้นที่โฆษณา
ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย iqmedia ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์ หากบทความนี้มีความไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม เนื่องจากทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
พื้นที่โฆษณา