พื้นที่โฆษณา

ข่าวสุขภาพ - สสส. ชวนคนไทย ร่วมสร้างวินัยการจราจร เดินหน้าปลูกฝังวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนผ่าน โครงการขับขี่ศึกษา (Safe Education) ร่วมสร้างอนาคต ถนนปลอดภัย สังคมปลอดภัย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Press Release

ชอบหน้านี้?
suttirungsri... 28 มี.ค. 66 31.6K

ฟังข่าวนี้

พื้นที่โฆษณา

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มีความตั้งใจมุ่งสร้างความตระหนักรู้ ปลูกฝังวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยสร้างความปลอดภัยทางถนน รวมถึงการสร้างวินัยการขับขี่ การใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เน้นกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งจากสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละปีกว่า 17,000 ราย พบว่าส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน และมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์สูงที่สุด

“เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนน สสส.จึงนำเรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ หรือ Health Literacy เข้ามาช่วยสร้างความตระหนักรู้ภัยจากอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อ GDP ของประเทศ ต่อสังคมหน่วยงาน ตนเอง และคนในครอบครัว รวมถึงยังเป็นการสร้างให้ทุกคนมีทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 15-19 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด และทุกกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้หลักการ Road Safety Health Vitality ผ่านโครงการขับขี่ศึกษา (Safe Education) “ร่วมสร้างอนาคต...ถนนปลอดภัย สังคมปลอดภัย” ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการส่งเสริมวัฒนธรรมจราจรปลอดภัย ประกอบด้วยหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1. สื่อสารรณรงค์ให้คนเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 2. ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน 3. สร้างการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง และ 4. พัฒนาช่องทางการสื่อสารในทุกแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


หากทุกคนในสังคมสามารถเข้าถึงและเข้าใจข้อมูลในบริบทเรื่องสุขภาพ และนำไปสู่ความรอบรู้ทางสุขภาพด้านความปลอดภัยทางถนน พร้อมกับทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงของอุบัติเหตุทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผู้ขับขี่รถ ผู้ใช้รถขนส่งสาธารณะ หรือคนเดินเท้า ก็จะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุ และช่วยให้ทุกคนสามารถใช้เส้นทางจราจรร่วมกันได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เราได้วางเป้าหมายการทำงานที่มุ่งสนับสนุนแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ฉบับที่ 5 เพื่อลดความสูญเสีย ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทยให้เหลือ 12 คน ต่อแสนประชากรในปี 2570 และลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ รวมถึงกลุ่มเยาวชนที่เป็นเป้าหมายสำคัญ และเพื่อให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ยังมีการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายภาคีที่เกี่ยวข้องผ่านโครงการขับขี่ศึกษา (Safe Education) เพื่อสื่อสารรอบด้านอย่างครอบคลุมไปสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ถนน และมุ่งหวังให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยนำไปสู่การลดอุบัติเหตุต่อไป”
ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีเอเชีย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากรายงานขององค์การอนามัยโลกปี 2558 พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทางถนนทั้งโลกคิดเป็น 93% โดยมาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง สถิติล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตทางถนนของไทยอยู่อันดับที่ 9 ของโลก มีจำนวนผู้เสียชีวิตทางถนนเฉลี่ย 32.7 คน ต่อแสนประชากร และถือเป็นสถิติที่สูงในอาเซียนอีกด้วย 75% เป็นกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ นอกจากการให้ความรู้ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปคือการมีวินัยในการขับขี่ ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เช่น สวมหมวกกันน็อก และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช้ความเร็วสูงหรือเกินกำหนด เป็นต้น สำหรับประเทศไทยเสนอให้มีการสอนทฤษฎีการคาดการณ์อุบัติเหตุในผู้ขับขี่ คือ 1.คาดการณ์เป็น 2.ประเมินสถานการณ์เป็น 3.ตัดสินใจเป็น และ 4.ควบคุมรถเป็น รวมถึงเพิ่มในการสอบใบขับขี่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น


โครงการขับขี่ศึกษา เกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ และเสริมความรอบรู้ทางสุขภาพด้านความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Literacy) ในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยพัฒนาเป็นช่องทางการสื่อสารกับวัยรุ่นในเรื่องการขับขี่ที่ปลอดภัย และมีชุดความรู้ให้แก่ครูเพื่อให้สามารถส่งต่อความรู้ความเข้าใจและทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียนในโรงเรียน ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ http://safeeducationthai.com/ เฟซบุ๊กเพจ “ขับขี่ศึกษา” และ ติ๊กต๊อก “ขับขี่ศึกษา”

พื้นที่โฆษณา
ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย suttirungsri ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์ หากบทความนี้มีความไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม เนื่องจากทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
พื้นที่โฆษณา